ปัจจุบันการทำธุรกิจออนไลน์กลายเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับธุรกิจทุกประเภท การซื้อโฆษณาออนไลน์เป็นเรื่องที่ทำกันได้แทบทุกคน แต่ปัญหาที่เริ่มเกิดขึ้นคือทำไมโฆษณาที่ซื้อไปถึงไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำไมยอดขายไม่ได้ตามเป้า สาเหตุสำคัญก็เพราะว่า เรายังยิงโฆษณาไปไม่โดนคนที่ใช่ นั่นเอง แล้วต้องทำยังไงถึงจะเจอคนที่ใช่ ก็ต้องบอกว่า Data คือคำตอบครับ
ธุรกิจไหนมี Data ที่ละเอียดกว่า ย่อมหาคนที่ใช่ได้เจอก่อนเสมอ วันี้เราจึงมี 3 เครื่องมือสำหรับเก็บ Data ที่ทุกธุรกิจสามารถมีได้แบบฟรีๆมาแนะนำให้ทดลองใช้กัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปชมพร้อมๆกันเลย
Data Analytic Tools
หากคุณมีเว็บไซต์ สิ่งแรกที่ต้องทำวันนี้หลังจากอ่านบทความนี้จบคือลองเช็คกับทางทีมไอที หรือผู้ดูแลเว็บไซต์นะครับว่าเว็บของคุณ ได้ติดตั้งเครื่องมือเหล่านี้หรือยัง มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลย
Google Analytics
เครื่องมือสามัญประจำเว็บไซต์ อันนี้ขาดไม่ได้ม่ตั้งแต่ไหนแต่ไร กับเครื่องมือพื้นฐานจำเป็น ที่จะบอกให้คุณได้รู้ถึง
- จำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์อขงเรา
- แยกเพศ อายุ สถานที่อยู่
- อุปกรณ์ที่ใช้ ยี่ห้อมือถือ เครือข่ายที่ใช้งาน ขนาดของหน้จอ
- เค้าเจอเราจากที่ไหน Search / Ads / Social ตัวใด
- ความชอบ ไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าชม
- หน้าเว็บไซต์ที่เปิดอ่าน ระยะเวลาที่ใช้งาน
- หน้าสุดท้ายที่ดูก่อนออกจากเว็บเรา
- และอื่นๆอีกมากๆๆๆๆ มากมายจริงๆ
แค่ที่กล่าวไปข้างบนก็สามารถเป็นข้อมูลให้เรานำไปต่อยอดการตลาดได้แล้วครับ นี่ยังไม่รวมถึงการติดตามการซื้อ-ขาย ในกรณีที่เรามีการขายสินค้าบนเว็บไซต์อีกด้วย ที่สำคัญข้อมูลทั้งหมดจะออกมาเป็นกราฟ เป็นตัวเลขที่อ่านและเข้าใจได้โดยง่าย เรียกได้ว่าครบครันสำหรับการทำธุรกิจเลย
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากสมัครใช้งานก็เข้าดูได้เลยที่เว็บไซต์ Google Analytics นะครับ
Google Search Console
เครื่องมือนี้เรียกว่าเติมเต็มส่วนที่ขาดจาก Google Analytics นั่นคือการดู Keyword ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ค้นเจอเราจาก Google
เช่นเค้าเจอเราจากคำว่า “ร้านอาหารใกล้ฉัน” “โรงแรมใจกลางเมือง” “รับหิ้วของแบรนด์เนม” เป็นต้น ตัว Keyword หรือคำค้นพวกนี้ จะช่วยบอกเราได้ว่าเราอยู่ ณ ตำแหน่งไหนในตลาด และคำค้นไหนที่น่าสนใจและมีคนค้นเจอเราเป็นจำนวนมาก เพื่อเราจะได้สามารถต่อยอดการวาง Keyword ในเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งการเลือกคำเพื่อนำไปซื้อโฆษณาอีกต่อนึง
ครบเครื่องเรื่องคำค้นหาต้องยกให้เครื่องมือตัวนี้เลย สนใจใช้งานสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ Google Search Console เลยครับ
Facebook Pixel
ตัวสุดท้ายที่จะแนะนำในวันนี้ อันนี้มีข้อจำกัดนิดนึงคือธุรกิจของคุณต้องมี Facebook Page เสียก่อน เครื่องมือจึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ หลักการทำงานเหมือนกับ Google Analytics ทุกประการ แตกต่างกันตรงที่ Facebook Pixel จะใช้ข้อมูลของผู้ใช้จาก Profile Facebook ของคนๆนั้นในการเก็บสถิติแทน ซึ่งมีโอกาสที่ Facebook จะเข้าใจความชอบ หรือรสนิยมของผู้ใช้คนนั้นๆได้ละเอียดกว่า Google ในระดับหนึ่ง
แนะนำว่าจำเป็นต้องมีทั้ง Google Analytics และ Facebook Pixel เลย เพื่อที่จะได้ข้อมูลครบจากทั้งสองฝั่ง และนำมาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อสรุปออกมาเป็น Data ของลูกค้าของเรานั่นเอง สนใจใช้งานสามารถเข้าไปเปิดใช้ได้ที่ Facebook Business Manager แล้วเลือกเพจที่ต้องการ ในขั้นตอนการติดตั้งอาจจะยุ่งยาก แนะนำให้ทาง Web Admin เป็นผู้ช่วยจัดการให้นะครับ
กล่าวโดยสรุป เครื่องมือทั้ง 3 ตัวนี้เป็นพื้นฐานเริ่มต้นสำหรับการเริ่มเก็บข้อมูลของผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา เพื่อนำสถิติที่ได้มาวางแผนการตลาด ต่อยอดการซื้อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำข้อมูลที่ได้ไปวัดผลได้อย่างตรงตามความจริงมากที่สุด เพราะข้อมูลเหล่านี้จะไม่โกหกเรา ตัวเลขที่เห็นนั้นเกิดขึ้นจริงตลอดเวลาบนโลกออนไลน์ ที่สำคัญ เครื่องมือทั้งหมดนี้เราสามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างฟรีๆเลย ลองนำไปใช้กันดูนะครับ
ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการเก็บสถิติอีกมากมายที่น่าสนใจ ในครั้งหน้าเราจะมาเรียนรู้เครื่องมือสถิติอื่นๆใน Social Media กันบ้าง รวมไปถึงคำศัพย์สำคัญๆที่ต้องรู้เกี่ยวกับการอ่านสถิติอีกด้วย ติดตามกรุ้ปของพวกเราไว้เพื่อไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆนะครับ HuaHin Town for Business แล้วพบกันนะ
Creative Director ถนัดเรื่อง Branding และการตลาดออนไลน์ ชอบติดตามข่าวสารอัพเดทวงการดิจิตอลอยู่เสมอๆ มีอะไรใหม่ๆน่าสนใจก็จะเอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันนะครับ