การตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์คืออะไร What is Online Marketing?

Online Marketing แปลตรงตัวก็คือการตลาดออนไลน์ หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Digital Marketing ก็ได้ สองคำนี้มีความหมายเดียวกัน นั่นก็คือ

การใช้เครื่องมือดิจิตอล เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่อยู่บนโลกออนไลน์ นั่นเอง

เป้าหมายสำคัญของการเข้าสู่โลกออนไลน์ก็เพื่อให้เราขายของได้มากขึ้น แต่เราจะเริ่มต้นยังไง และมีช่องทางไหนให้ทำได้บ้าง ลองไปดูพร้อมๆกันครับ


ช่องทางการตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์มีหลายช่องทางมากๆจนชวนให้สับสนได้ แต่ถ้าจะให้แบ่งง่ายๆ ขอแบ่งออกเป็น 3 ช่องทางใหญ่ๆ

  1. ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ของเราเอง
  2. การตลาดผ่าน Social Media
  3. การตลาดผ่าน Market Place ต่างๆ

ซึ่งทั้งสามช่องทางสามารถทำควบคู่กันไปได้ จะทำช่องทางใดทางหนึ่ง หรือจะทำทั้งหมดเลยก็ได้


ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ของเราเอง

คือการสร้างหน้าเว็บไซต์ของเราเอง ที่แสดงผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆที่เรามี รวมถึงข้อมูลติดต่อสอบถาม และบางเว็บไซต์อาจจะมีระบบซื้อขาย ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทันที ข้อดีของกาารมีเว็บไซต์คือเป็นหน้าร้านออนไลน์ที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจ รวมถึงสามารถติดตั้งเครื่องมือสถิติต่างๆได้ตามต้องการ เพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา

เว็บไซต์คือช่องทางที่เราควบคุมข้อมูลได้มากที่สุด

ทั้งนี้ในการทำเว็บไซต์ก็มีรูปแบบและความซับซ้อนแตกต่างกันไป เริ่มตั้งแต่เว็บไซต์แบบหน้าเดียว ไปจนถึงเว็บไซต์ที่มีระบบหลังบ้านมากมาย งบประมาณในการทำเว็บไซต์ก็เริ่มตั้งแต่หลักพันจนไปถึงหลักแสนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการที่เจ้าของธุรกิจแต่ละคนต้องการ

ปรึกษาฟรี!!

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ หรือต้องการทำเว็บไซต์ ติดต่อเราได้ตลอดเวลา

คลิกเลย


การตลาดผ่าน Social Media

สื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางการตลาดที่ทำได้ง่ายและเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะเพียงแค่มีเฟสบุ๊ค ไลน์ หรืออินสตาแกรมก็สามารถเริ่มขายของออนไลน์ได้

ข้อดีคือสามารถสื่อสารกับผู้ซื้อได้ทันที เริ่มต้นง่าย ใช้แค่มือถือเครื่องเดียวก็ทำได้เลย

อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเรื่องการซื้อโฆษณา หรือเพิ่มบริการเสริมอื่นๆที่แต่ละแพลตฟอร์มมีได้ทันที แต่ข้อเสียก็คือมีคู่แข่งเยอะ และโพสต์ในโซเชียลมีเดียก็อาจจะมีคนเห็นน้อยหากไม่ซื้อโฆษณา ดังนั้นหากจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการทำตลาดก็อาจจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการซื้อโฆษณาเอาไว้ด้วยนั่นเอง


การตลาดผ่าน Market Place ต่างๆ

หรือการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มของคนอื่น เช่น Shopee / Lazada / JD.com เป็นต้น การขายสินค้าในพื้นที่เหล่านี้ ข้อดีคือมีระบบจัดการหลังบ้านหลายๆอย่างที่สะดวกสำหรับขายของออนไลน์ เช่นระบบการจ่ายเงิน ระบบเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าต่างๆ ที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าทำงานง่ายขึ้น แต่ก็อาจจะแลกมากับค่าบริการต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้กำไรต่อชิ้นเหลือน้อยนั่นเอง

ทั้งนี้สินค้าแต่ละชนิดก็จะมีตลาดที่เหมาะสมแตกต่างกันไป อย่างเช่นธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ก็อาจจะเปิดขายใน Agoda / Booking.com หรือ Expedia เป็นต้น ดังนั้นเราจะไปขายที่ไหนก็ต้องมองดูตลาดที่เหมาะสมกับสินค้าของเราด้วยนั่นเอง

เลือก Market Place ที่เหมาะสมกับสินค้า จะช่วยให้เข้าหาลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว


และนี่ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มต้นขายของออนไลน์นะครับ ลองสำรวจสินค้าของตัวเองดูก่อนว่าเราจะขายอะไรให้กับใคร แล้วจากนั้นก็เลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าของเรา รับรองว่าจะช่วยให้ขายสินค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

Related posts
Searchการตลาดออนไลน์

รวมคำศัพท์ที่ควรรู้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลสถิติออนไลน์

การตลาดออนไลน์

5 วิธีรับมือโควิด-19 ด้วย Google My Business สำหรับร้านอาหาร

Searchการตลาดออนไลน์

เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมลงใน Google My Business

Searchการตลาดออนไลน์

ค้นหาเมนูอาหารง่ายๆ ด้วย Google Maps